CFD เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อน และมีความเสี่ยงสูงในการสูญเสียเงินอย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากเลเวอเรจ บัญชีนักลงทุนรายย่อย 84% สูญเสียเงินขณะทำการซื้อขาย CFD กับผู้ให้บริการรายนี้ คุณควรพิจารณาว่าคุณเข้าใจการทำงานของ CFD หรือไม่ และคุณสามารถรับความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียเงินของคุณได้หรือไม่

แนวรับและแนวต้าน คืออะไร

แนวรับและแนวต้าน

ตัวบ่งชี้แนวรับและแนวต้านเป็นเครื่องมือสำคัญและเป็นที่นิยมในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งจำเป็นสำหรับตลาดการเงิน  ระดับแนวรับและแนวต้านแสดงถึงกระแสคำสั่ง เช่น อุปสงค์และอุปทาน ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

ความหมายของแนวรับและแนวต้านเป็นการสันนิษฐานว่าล่วงหน้าว่าราคาของสินทรัพย์จะหยุดและพลิกกลับ ตัวบ่งชี้แนวรับและแนวต้านเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งช่วยในการวิเคราะห์แผนภูมิราคาของตลาดและหาจุดสำคัญสามจุด ได้แก่ ทิศทางของตลาด เวลาในการเข้าสู่ตลาด และจุดที่จะออกจากตลาด 

คุณเคยได้ยินคำว่า แนวรับและแนวต้าน จากที่ไหน

มีการอธิบายตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างมากครั้งแรกในปี 1930 โดย Richard W Schabacker ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกและการวิจัยเชิงนวัตกรรมในการวิเคราะห์ทางเทคนิค หรือ "การวิเคราะห์ทางเทคนิคและผลกำไรของตลาดหุ้น" ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผลงานที่สำคัญที่สุดในหัวข้อนี้ ตัวบ่งชี้แนวรับและแนวต้านเป็นหนึ่งในรูปแบบที่สำคัญที่กำหนดโดยนักวิทยาศาสตร์ 

สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับแนวรับและแนวต้าน

แนวรับและแนวต้านก็คือ "พื้น" และ "เพดาน" ตลาดซื้อขายเป็นเหมือนลูกบอลที่เด้งไปมาระหว่างพื้นกับเพดานนั้นเอง

แนวรับคือระดับที่ราคาตลาดมีแนวโน้มที่จะหาแนวรับเมื่อราคาตก แนวรับจะต้องแข็งแกร่งพอที่จะรักษาราคาไม่ให้ตกลงมากไปอีก หมายความว่าหากตลาดถึงระดับแนวรับ ก็มีแนวโน้มที่จะเด้งออกมากกว่าที่จะทะลุผ่านและตกลงต่อไป แต่ว่า ราคาอาจลงไปที่ระดับแนวรับและเคลื่อนตัวต่ำลงไปยังแนวรับอีกระดับหนึ่งก็ได้ 

แนวต้านเป็นระดับตรงข้ามกับแนวรับ อุปทานในแนวต้านต้องแข็งแกร่งพอที่จะหยุดราคาตลาดไม่ให้เติบโตต่อไป หมายความว่าราคาจะเผชิญกับแนวต้านเมื่อราคาสูงขึ้น โดยราคามีแนวโน้มที่จะผลักออกจากระดับนี้มากกว่าที่จะทะลุผ่าน แต่ก็อาจมีการแนวต้านได้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้ราคายังคงขยับขึ้นต่อไปได้

ทำไมตัวบ่งชี้แนวรับและแนวต้านจึงมีความหมายมากสำหรับผู้ค้าและนักลงทุน? ระดับแนวรับและแนวต้านเป็นพื้นฐานของเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค การกำหนดระดับการสนับสนุนในอนาคตสามารถช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน ทำให้ผู้ค้ามีมุมมองที่ชัดเจนเกี่ยวกับระดับราคาที่สามารถหนุนราคาของสินทรัพย์ได้มากขึ้น การกำหนดระดับแนวต้านอาจส่งผลต่อความสำเร็จของนักลงทุน เช่นเดียวกับการแสดงระดับราคาที่อาจส่งผลเสียต่อตำแหน่งซื้อ

ดังนั้น แนวรับและแนวต้านของเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคหลักจึงมักถูกใช้เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ และช่วยให้ผู้ค้าและนักลงทุนสามารถหาจุดซื้อและขายที่อาจเกิดขึ้นได้

เปิดบัญชีซื้อขายในเวลาน้อยกว่า 3 นาที

เทรดทันที

วิดีโอล่าสุด

ยังคงมองหาโบรกเกอร์ที่ไว้ใจได้?

เข้าร่วมกับนักเทรดทั่วโลกมากกว่า 535,000 ราย ผู้ซึ่งเลือกซื้อขายกับ Capital.com

1. สร้างและยืนยันบัญชีของคุณ 2. ฝากเงิน 3. ค้นหาการซื้อขายของคุณ